Health

  • ปัสสาวะบ่อย เป็นอันตรายหรือไม่
    ปัสสาวะบ่อย เป็นอันตรายหรือไม่

    ปัสสาวะบ่อย อาจเกิดจากการกินน้ำมากไป หลายคนชะล่าใจคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ความจริงแล้วอาจกำลังเผชิญอยู่กับภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน ในขณะเดียวกันอาจเป็นอาการนำของโรคร้ายได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่ปัสสาวะบ่อยมากในช่วงกลางคืน หรือมีลักษณะปัสสาวะผิดปกติ ควรมารับการตรวจเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

    ปัสสาวะบ่อย หรือภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน

    ปัสสาวะบ่อย หรือภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive Bladder – OAB) เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน ที่เกิดจากการรับรู้ของกระเพาะปัสสาวะที่เร็วกว่าปกติ ทำให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะบีบตัวบ่อย ส่งผลให้มีอาการปัสสาวะบ่อยทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะดื่มน้ำในปริมาณมากหรือน้อยก็ตาม ทำให้เกิดความรำคาญ ขาดความมั่นใจ วิตกกังวล รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน โดยจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย พบได้ตั้งแต่ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานช่วงอายุ 30 – 40 ปี และพบมากในผู้สูงวัยช่วงอายุตั้ง 50 ปีขึ้นไป

    การตรวจเช็กภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินสามารถประเมินได้โดยแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งแพทย์จะทำการซักถามและให้ทำแบบประเมินโดยละเอียด ซึ่งจะพิจารณาจาก

    • จำนวนครั้งและปริมาณที่ปัสสาวะใน 1 วัน ตั้งแต่หลังตื่นนอนตอนเช้าถึงก่อนนอนตอนกลางคืน
    • จำนวนครั้งและปริมาณที่ตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืนนับตั้งแต่นอนหลับถึงตื่นนอนในตอนเช้า
    • จำนวนครั้งที่ปวดปัสสาวะแล้วไม่สามารถกลั้นได้
    • จำนวนครั้งที่ปัสสาวะเล็ดราดในขณะที่ปวดอย่างทันทีทันใดแล้วไม่สามารถกลั้นไว้ได้

    นอกจากนี้จะมีการเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจการติดเชื้อ ตรวจปัสสาวะตกค้าง ตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะขณะที่มีการเติมน้ำเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ เพื่อวินิจฉัยแทรกโรคอื่น ซึ่งการส่งตรวจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เป็นสำคัญ

    อาการบอกโรค

    อาการที่อาจบ่งบอกว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน ได้แก่

    • ปัสสาวะบ่อยมากขึ้นกว่าปกติที่เคย หรือไม่ต่ำกว่า 7 ครั้งตอนกลางวัน ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งตอนกลางคืน
    • ปัสสาวะรีบปวดปัสสาวะมาก ไม่สามารถกลั้นได้ ต้องเข้าห้องน้ำทันที

    การตรวจเช็กภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินสามารถประเมินได้โดยแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งแพทย์จะทำการซักถามและให้ทำแบบประเมินโดยละเอียด ซึ่งจะพิจารณาจาก

    • จำนวนครั้งและปริมาณที่ปัสสาวะใน 1 วัน ตั้งแต่หลังตื่นนอนตอนเช้าถึงก่อนนอนตอนกลางคืน
    • จำนวนครั้งและปริมาณที่ตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืนนับตั้งแต่นอนหลับถึงตื่นนอนในตอนเช้า
    • จำนวนครั้งที่ปวดปัสสาวะแล้วไม่สามารถกลั้นได้
    • จำนวนครั้งที่ปัสสาวะเล็ดราดในขณะที่ปวดอย่างทันทีทันใดแล้วไม่สามารถกลั้นไว้ได้

    นอกจากนี้จะมีการเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจการติดเชื้อ ตรวจปัสสาวะตกค้าง ตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะขณะที่มีการเติมน้ำเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ เพื่อวินิจฉัยแทรกโรคอื่น ซึ่งการส่งตรวจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เป็นสำคัญ

    รักษากระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน

    ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินจัดเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแนวทางการรักษาแพทย์จะพิจารณาโดยละเอียด มีหลายวิธี ได้แก่

    1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 

    • การจดบันทึกไดอารี่การขับถ่ายปัสสาวะ (Voiding Chart) ใส่รายละเอียดปริมาณน้ำดื่มในแต่ละครั้งและปริมาณน้ำปัสสาวะที่ออกมาแต่ละครั้ง โดยจดบันทึกทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
    • ลดและงดดื่มน้ำ 2 ชั่วโมงก่อนเข้านอน ช่วยป้องกันการตื่นมาปัสสาวะขณะหลับ
    • งดเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ได้แก่ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
    • ในกรณีที่มีการใช้ยารักษาโรคที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนการใช้ยาอย่างเหมาะสม
    • ฝึกควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะ (Time Voiding) ช่วยให้กลั้นปัสสาวะได้นานขึ้น ความถี่ในการเข้าห้องน้ำลดลง โดยจะใช้วิธีกำหนดเวลาในการขับถ่ายปัสสาวะ เมื่อปวดปัสสาวะให้สนใจนอกห้องก่อน เมื่อความรู้สึกเริ่มหายไปให้ลองกักเวลาแล้วจดมาว่าปัสสาวะทุกกี่นาทีหรือกี่ชั่วโมงแล้วลองยืดเวลาปัสสาวะออกไป หากปัสสาวะไม่สุดให้นั่งรอในห้องน้ำแล้วปัสสาวะอีกครั้ง ซึ่งการฝึกขับถ่ายปัสสาวะจะต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เฉพาะทาง

    2. การใช้ยารับประทาน 

    ยาที่ใช้รักษาภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกินจะมีผลในการลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยกลั้นปัสสาวะได้นานขึ้น ความถี่ในการปัสสาวะลดลง และเพิ่มความจุของกระเพาะปัสสาวะ โดยจะต้องมีการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์เฉพาะทางและต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมควบคู่กันไป ปัจจุบันการใช้ยารับประทานได้รับความนิยมมากเพราะผลข้างเคียงน้อย

    3. ฉีดยาโบทูลินัมท็อกซิน 

    การฉีดยาโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum Toxin) เข้ากล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะผ่านการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะจะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยดื้อยาหรือไม่ตอบสนองต่อยาที่รับประทาน ซึ่งวิธีนี้ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการฉีดซ้ำ รวมถึงอาจมีผลข้างเคียงคือ ปัสสาวะลำบาก  ปัสสาวะไม่ออกหรือออกไม่หมด จำเป็นจะต้องสวนปัสสาวะทิ้งด้วยตนเอง

    4. กระตุ้นเส้นประสาทควบคุมระบบทางเดินปัสสาวะ

    วิธีนี้จะใช้กระแสไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นเส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ โดยมีทั้งวิธีการรักษาแบบชั่วคราวและแบบถาวร จำเป็นต้องทำการรักษากับแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญเท่านั้น

    5. ผ่าตัดเพื่อขยายกระเพาะปัสสาวะ 

    หากผู้ป่วยทำการรักษาทุกวิธีแล้วยังไม่เห็นผลอาจจำเป็นจะต้องผ่าตัดเพื่อขยายกระเพาะปัสสาวะเพื่อให้เก็บปริมาณปัสสาวะได้มากขึ้น วิธีนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ได้แก่ ปัสสาวะออกไม่แรง ปัสสาวะออกไม่หมด ปัสสาวะมีตะกอน เพิ่มโอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ จึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางอย่างละเอียด

    ปัสสาวะบ่อย

    กระเพาะปัสสาวะอักเสบฉับพลัน (Acute Cystitis)

         เกิดจากติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดการอักเสบ เช่น การกลั้นปัสสาวะ เป็นปัจจัยที่พบบ่อยของการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ บางคนที่กลั้นปัสสาวะเพราะเห็นว่าห้องน้ำไม่สะอาด มีโอกาสเกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะได้

    อาการ
    ปวดท้องน้อย ปัสสาวะไม่สุด ปวดปัสสาวะบ่อยแต่ปัสสาวะได้ครั้งละเล็กน้อย กดที่หน้าท้องจะเจ็บ ปัสสาวะมีสีเข้มหรือมีสีแดงคล้ายเลือดปนออกมา

    ปัจจัยเสี่ยง 

    • ผู้ที่มีความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ท่อปัสสาวะ ตีบ ,นิ่ว หรือเนื้องอกในระบบทางเดินปัสสาวะ
    • ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ช่องคลอดจะแห้ง เชื้อแบคทีเรียจะกระจายไปสู่ท่อปัสสาวะได้ง่าย
    • การมีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ทำให้เชื้อโรคกระจายเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
    • คนที่เคยมีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้วมีโอกาสเป็นได้อีกบ่อยๆ แต่ไม่ควรมากกว่า 2 ครั้ง ในเวลา 6 เดือน หรือ มากกว่า 3 ครั้งต่อปี

    คำแนะนำในการดูแลไม่ให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

    • ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม 6 -10 แก้ว แล้วแต่ความต้องการของร่างกายของแต่ละคน
    • ห้ามกลั้นปัสสาวะ ถ้าต้องเดินทางเป็นเวลานานไม่ควรดื่มน้ำมาก ทำให้ต้องกลั้นนปัสสาวะนานๆ ซึ่ง  เสี่ยงต่อการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่ายขึ้น
    • ปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง
    • ถ้ามีอาการเพียงเล็กน้อยให้ดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ เพื่อให้ปัสสาวะบ่อยขึ้นร่างกายก็จะกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้เอง

    ปัสสาวะบ่อยแค่ไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ 

    สังเกตได้ง่ายๆ โดยปกติภายใน 24 ชั่วโมง คนเราจะปัสสาวะอย่างน้อย 6-8 ครั้ง กลางคืนเราจะปัสสาวะเพียง 1-2 ครั้งแต่ถ้าหากมากกว่านี้ โดยเฉพาะถ้าช่วงกลางคืนปัสสาวะมากมักบ่งชี้ถึงโรคบางอย่างมากกว่า ปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางวัน เพราะในช่วงกลางวัน มักเกิดจากการดื่มน้ำมาก  ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือคาเฟอีนมากเกินไป ซึ่งถ้าไม่มีสาเหตุที่กล่าวมาควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ

    โรคที่เป็นสาเหตุของปัสสาวะบ่อย

    • โรคเบาหวาน การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยอ่อนเพลีย น้ำหนักลด
    • โรคต่อมไร้ท่อผิดปกติเช่นโรคเบาจืด โรคคุชชิง(Cushing syndromes)
    • โรคระบบทางเดินปัสสาวะทั้งกระเพาะปัสสาวะอักเสบและกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน(overactive bladder)
    • ภาวะตั้งครรภ์ มดลูกที่ใหญ่ขึ้นจะกดกระเพาะปัสสาวะทำให้ความจุน้อยลงทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยมากขึ้น
    • โรคทางระบบสืบพันธุ์ เช่นเนื้องอกมดลูกหรือรังไข่ ที่โตเบียดกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโตในผู้ชายทำให้มีอาการปัสสาวะบ่อยได้อาจมีอาการร่วมคือปัสสาวะลำบากต้องเบ่งและคอยนานกว่าปัสสาวะจะออกมา
    • ภาวะทางจิตใจ (psychogenic polydipsia)ทำให้ดื่มน้ำมากกว่าปกติจึงทำให้ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
    • ยาหรือสารบางชนิดเช่น ยาขับปัสสาวะ คาเฟอีนแอลกอฮอล์ มีผลทำให้ปัสสาวะบ่อยได้
    • โรคไตเรื้อรัง การทำงานของไตที่เสื่อมลงอาจจะทำให้มีปัสสาวะตอนกลางคืนได้บ่อย

    ปัสสาวะบ่อย

    ปัสสาวะบ่อยในผู้ชายเสี่ยงเป็นโรคต่อมลูกหมากโต

    ไม่ใช่เพียงผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องดูแลใส่ใจเรื่องการปัสสาวะ แต่ในยุคสมัยนี้แล้วคุณผู้ชายต้องหันมาดูแลใส่ใจด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคุณผู้ชายที่มีอาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะลำบาก คุณอาจตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่โรคต่อมลูกหมากโตได้ โรคต่อมลูกหมากโตเกิดจากหลายปัจจัย

    1. เป็นเรื่องเกี่ยวกับอายุ ซึ่งพอผู้ชายอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ต่อมลูกหมากจะค่อยๆ โตขึ้น และเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป จะเริ่มมีอาการของต่อมลูกหมากโต

    2. พันธุกรรม

    3. ฮอร์โมนเพศชาย ที่เราเรียกว่า Dihydrotestosteroneซึ่งฮอร์โมนนี้จะมีผลต่อต่อมลูกหมาก เป็นอาหารที่มาเลี้ยงต่อมลูกหมาก ส่งผลให้ต่อมลูกหมากโตขึ้น พอเมื่อโตขึ้นแล้วก็จะไปกดที่ท่อปัสสาวะ ทำให้มีอาการปวดปัสสาวะบ่อย และทำให้ปัสสาวะลำบาก

    ทั้งนี้สัญญาณที่บอกว่ากำลังเป็นโรคนี้อยู่คือ เวลาปัสสาวะไม่พุ่ง ปัสสาวะไม่แรง หรือปัสสาวะต้องใช้แรงเบ่งมากขึ้น ปัสสาวะแล้วไม่หมดบางครั้งปัสสาวะเสร็จแล้วมีน้ำปัสสาวะหยดตามออกมาทำให้เปรอะเปื้อนได้ อันนี้เป็นส่วนของภาวะอุดกั้น ส่วนอีกภาวะหนึ่งเรียกว่า Irritative Symptoms หรือเรียกว่า ภาวะการระคายเคือง ในส่วนนี้พอต่อมลูกหมากที่ไปอุดกั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ทำให้กระเพาะปัสสาวะมีการบีบตัวมากขึ้น ส่งผลให้คนไข้ปัสสาวะบ่อย หรือบางทีมีปัสสาวะแล้วแสบขัด หรือปัสสาวะบ่อยมากช่วงกลางคืน หรือบางคนกั้นปัสสาวะไม่อยู่ เช่น เวลาปวดปัสสาวะต้องรีบเข้าห้องน้ำทันที เป็นอาการที่บ่งชี้ว่าอาจจะเป็นต่อมลูกหมากโต

    สำหรับขั้นตอนการรักษา

    ถ้าคนไข้ยังมีอาการที่ไม่มาก แพทย์จะให้คนไข้ปรับเปลี่ยน Life Style หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนไข้ได้ ส่วนกลุ่มคนไข้ที่มีอาการปานกลาง ถึงขั้นรุนแรง แพทย์จะรักษาด้วยการให้ยาอันดับแรก แต่ถ้าคนไข้ที่รักษาด้วยยาแล้วไม่ตอบสนอง คนไข้อาจได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดต่อมลูกหมากโตมีด้วยกัน 2 วิธี คือ

    1. เป็นวิธีดั้งเดิมที่มีการผ่าตัดทางหน้าท้อง เพื่อที่จะเอาเนื้อต่อมลูกหมากที่อุดกั้นท่อปัสสาวะออก ทำให้คนไข้ปัสสาวะได้ดีขึ้น

    2. ผ่าตัดด้วยวิธีส่องกล้อง ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้วิธีทางส่องกล้องมากกว่า ซึ่งในกรณีนี้คนไข้จะถูกบล็อกหลังหรือดมยาสลบ เพื่อที่จะส่องกล้องเข้าไปที่ท่อปัสสาวะ ไปจนถึงต่อมลูกหมาก พอไปถึงต่อมลูกหมากแล้วแพทย์จะใช้วิธีการคว้านหรือจี้ด้วยไฟฟ้าทำให้เนื้อต่อมลูกหมากที่อุดกั้นของท่อปัสสาวะโล่งขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตของคนไข้ดีขึ้นก็จะปัสสาวะได้ดีขึ้น

    ปัสสาวะบ่อยแบบไหนที่ต้องมาพบแพทย์

    เมื่อมีอาการปัสสาวะบ่อยจนรู้สึกว่าผิดปกติหรือรบกวนชีวิตประจำวัน หรือมีอาการร่วมต่างๆ ดังนี้

    • ปัสสาวะมีเลือดปนหรือปัสสาวะขุ่น
    • ปัสสาวะมีสีแดง หรือสีน้ำตาลเข้ม
    • มีอาการเจ็บขณะปัสสาวะ
    • มีอาการเจ็บปวดที่บริเวณท้องน้อย หรือมีก้อนที่ท้องน้อย
    • ปัสสาวะลำบาก หรือปัสสาวะไม่ออกต้องเบ่ง
    • มีปัญหาเกี่ยวกับการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
    • มีไข้ร่วมด้วย

     

    หากมีอาการปัสสาวะบ่อย โดยที่ไม่ได้ดื่มน้ำ หรือไม่ได้บริโภคคาเฟอีน และแอลกอฮอล์มากกว่าปกติ ปัสสาวะบ่อยจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการนอนหลับ และมีอาการอื่นๆ ที่เป็นสัญญาณอันตราย เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด มีอาการเจ็บขณะปัสสาวะ มีปัญหาเกี่ยวกับการกลั้นปัสสาวะ มีไข้ เป็นต้น ควรพบแพทย์ทันที

     

    เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจ

     

    ที่มาของบทความ

     

    ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่  hamptoninnjohnsoncity.com

    สนับสนุนโดย  ufabet369

Economy

  • Chris Mason: สิ่งที่ Sunak พยายามบรรลุเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา
    Chris Mason: สิ่งที่ Sunak พยายามบรรลุเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา

    นี่เป็นครั้งที่สี่ในรอบหลายเดือนที่นายกรัฐมนตรีได้พบกับประธานาธิบดีไบเดน

    พวกเขาพบกันที่ซานดิเอโกในเดือนมีนาคม เบลฟาสต์ในเดือนเมษายน

    ฮิโรชิมาในเดือนพฤษภาคม และตอนนี้เป็นเดือนมิถุนายนและก็คือวอชิงตัน

    ฉันถูกดึงมาทุกครั้งและมันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นของพวกเขา

    และค่อนข้างจะเติบโตก็ต้องทำ

    เมื่อ Rishi Sunak เป็นนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี Biden เรียกเขาว่า Rashee Sanook เพื่อแสดงความยินดีกับเขา

    หลังจากนั้นไม่นาน นายสุนักก็ยอมรับกับฉันว่าชื่อเสียงของสหราชอาณาจักร “เสียไปนิดหน่อย” เพราะความยุ่งเหยิงทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในปี 2565

    ซูนัคและไบเดนจะจัดการเจรจาในกรุงวอชิงตันที่ควันโขมง

    แก่นแท้ของตราสินค้าของเขาในฐานะนายกรัฐมนตรีกำลังพยายามสร้างตัวตนที่ตรงกันข้าม: หวังที่จะถูกมองว่าเชื่อถือได้ เชื่อได้ น่าเชื่อถือ และไว้วางใจได้

    ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะถามคำถามระหว่างทางที่นี่เกี่ยวกับสิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับคำพูดของเจ้าชายแฮร์รีที่ว่าสหราชอาณาจักรถูกตัดสินทั่วโลกโดยสถานะของ เศรษฐกิจ สื่อและรัฐบาล ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เจ้าชายถือว่าอยู่ใน “ก้นบึ้ง”

    แต่หลังจากพยายามพิสูจน์ว่าเขาสามารถเป็นแจ๊สที่อ่อนโยนของการเมืองมากกว่าเฮฟวีเมทัลที่เคยมีมา ความท้าทายสำหรับ Rishi Sunak ในตอนนี้คือการส่งมอบให้เร็วที่สุดโดยคาดว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า

    ยูเครนจะเป็นหัวข้อที่เกิดขึ้นประจำในทริปนี้

    Chris Mason: สิ่งที่ Sunak พยายามบรรลุเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกานายสุนัคบอกเราว่าสหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาว่าใครคือต้นเหตุของการทำลายเขื่อนขนาดใหญ่ที่นั่น

    เขาบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะ “ตัดสินขั้นสุดท้าย”

    แต่เขากล่าวเสริมว่า หากเป็นการจงใจ การโจมตีดังกล่าวจะถือเป็น “การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนครั้งใหญ่ที่สุดในยูเครนนับตั้งแต่เริ่มสงคราม”

    การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาสำหรับเคียฟจะเป็นหัวใจสำคัญของการหารือระหว่างผู้นำที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดีนอกจากนี้ใน

    วาระการประชุม กฎระเบียบของปัญญาประดิษฐ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

    สำหรับ AI นายกรัฐมนตรีคาดว่าจะทำให้สหราชอาณาจักรสามารถเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและกฎระเบียบได้

    และในด้านเศรษฐกิจ Rishi Sunak กล่าวว่าเขาจะ “หารือกันต่อไป” กฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อของอเมริกา ซึ่งเห็นการอุดหนุนใหม่หลายพันล้านครั้งโดยมีเป้าหมายที่อุตสาหกรรมสีเขียวในสหรัฐฯ โดยมีบางคนกังวลว่าสหราชอาณาจักรจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

    คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้จาก Faisal Islam เพื่อนร่วมงานของฉัน

    ช่องว่างระหว่างประธานาธิบดีกับสัญชาตญาณของนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้กว้างไกล ถ้าไม่น่าแปลกใจ: ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตเลือกที่จะเข้าแทรกแซงครั้งใหญ่โดยรัฐ ด้วยความหวังที่จะทำให้เศรษฐกิจเป็นสีเขียว ฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง และนำการผลิตกลับคืนสู่สหรัฐฯ

    และนายกรัฐมนตรีหัวอนุรักษ์นิยมไม่ได้ถูกดึงดูดโดยธรรมชาติต่อการแทรกแซงขนาดใหญ่เช่นนี้ และการเสนอว่า

    แต่แม้ว่าจะมีความขัดแย้งทางปรัชญาจากบางคนกับสิ่งที่ประธานาธิบดีกำลังทำอยู่ การตอบสนองทางการเมืองต่อสิ่งนั้นคืออะไร?

    Rishi Sunak กล่าวว่า “เราสร้างงานมากมาย”

    ในอุตสาหกรรมสีเขียวและ “ลดคาร์บอนได้เร็วกว่า” เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

    เขาไม่เชื่อว่าการพยายามใช้แผนเดียวกับวอชิงตันจะฉลาด

    ในขณะเดียวกัน ราเชล รีฟส์ ซึ่งหวังว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของสหราชอาณาจักร หากพรรคแรงงานชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า อยู่ในเมืองหลวงของสหรัฐฯ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน และเปิดรับกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับของโจ ไบเดนอย่างเปิดเผย

    แผนของเธอมีราคาไม่แพงและทำได้จริงหรือไม่? คำถามเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่และยังไม่มีคำตอบ

    สิ่งที่ชัดเจนกว่ามากคือความพยายามของประธานาธิบดีไบเดนในการทำให้เศรษฐกิจโลกกลับมามีนัยยะที่ส่งผลกระทบไปทั่ว ไม่น้อยต่อเศรษฐกิจในประเทศของเรา และการเมือง

    เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเว็บของเรา

    มนุษย์จะประสบความสำเร็จในการสำรวจอวกาศยุคใหม่หรือเปล่า

    รีวิวหนัง Money Shot : The Pornhub Story

    เปิดสูตรเมนูคีโต ทำเองง่ายๆราคาไม่แพงแถมดีต่อสุขภาพ

    8 กิจกรรมให้ลูกทำช่วงปิดเทอม ช่วยให้มีพัฒนาการที่ดีรอบด้าน

    สุนัขขี้กลัว มีอาการแบบไหนและแก้ไขอย่างไร

    ขอบคุณรูปภาพจาก www.pexels.com

    แหล่งที่มา https://www.bbc.com/news/business

    สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่  hamptoninnjohnsoncity.com